สโมสรอาชีพ ของ แดนนี เวลเบก

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เวลเบก เริ่มเล่นฟุตบอลในทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ[4] ก่อนที่จะก้าวสู่ทีมรุ่นใหญ่ เปิดตัวในปี ค.ศ. 2008 ถูกยืมตัวไปเพรสตันนอร์ทเอนด์ จากนั้นเป็นซันเดอร์แลนด์

อาร์เซนอล

ในต้นฤดูกาล 2014–2015 เวลเบกย้ายจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาร่วมทีมอาร์เซนอล ในราคาค่าตัว 16 ล้านปอนด์ ด้วยสัญญา 5 ปี หลังจากไม่อยู่ในแผนการทำทีมของลูวี ฟัน คาล ผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด[5] ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ทำให้นักฟุตบอลและบุคลากรเก่า ๆ ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรู้สึกเสียดาย[4][6]

เวลเบกลงเล่นให้กับอาร์เซนอลครั้งแรก ในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 4 ของฤดูกาล โดยพบกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ถึงแม้ว่าจะยิงประตูไม่ได้ แต่ก็สามารถเล่นได้ดีและเกือบยิงประตูได้ถึง 2 ครั้งในช่วงต้นครึ่งแรก โดยเฉพาะลูกที่ 2 ในนาทีที่ 12 ที่ยกลูกฟุตบอลกระดกข้ามศีรษะของโจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตีไปแล้ว แต่ทว่าลูกฟุตบอลชนเสากระเด็นออกไป[7]

เวลเบกยิงประตูแรกให้กับอาร์เซนอลได้ ในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 5 ของฤดูกาล เมื่อเป็นฝ่ายบุกไปเยือน แอสตันวิลลา ที่สนามวิลลาพาร์ค ในนาทีที่ 34 และเป็นประตูที่ 2 ของอาร์เซนอลในนัดนี้[8] และยิงแฮตทริกได้ ในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่อาร์เซนอลพบกับ กาลาตาซาราย จากตุรกี ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม โดยอาร์เซนอลเป็นฝ่ายชนะไป 4–1 และถิอเป็นแฮตริกแรกในชีวิตของเวลเบกอีกด้วย[9]

เวลเบกยิงทีมเก่าตัวเอง คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เป็นลูกแรก ในรายการเอฟเอคัพรอบ 8 ทีม ในนาทีที่ 62 และเป็นประตูที่ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตกรอบ ซึ่งผลการแข่งขัน คือ อาร์เซนอลชนะไป 1–2 ประตู ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด [10]

ในฤดูกาล 2015–16 แดนนี เวลเบก ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ในนัดที่พบกับ เชลซี ทำให้ไม่ได้ลงเล่นตลอดฤดูกาลในปี ค.ศ. 2015 และหายบาดเจ็บกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2016 ในฐานะตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 83 แทนที่อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน ในนัดที่ 26 ที่พบกับ เลสเตอร์ซิตี ซึ่งมีคะแนนนำเป็นทีมอันดับหนึ่งในตารางคะแนน ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ผลปรากฏว่าอาร์เซนอลสามารถเอาชนะไปได้ 2–1 จากลูกโหม่งของเวลเบกจากลูกเปิดฟรีคิกของเมซุท เออซิล ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นการสัมผัสลูกฟุตบอลเป็นครั้งที่สองเท่านั้นในนัดนี้ ทำให้อาร์เซนอลชนะไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ[11]

แต่ในช่วงท้ายฤดูกาล เวลเบกได้รับบาดเจ็บจากการลงเล่นในนัดที่เสมอไปกับแมนเชสเตอร์ซิตี 2–2 ที่สนามเอติฮัดสเตเดียม ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลารักษาตัวประมาณ 9 เดือน และทำให้พลาดการติดทีมชาติไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 [12] เวลเบกหายเจ็บกลับมาในช่วงต้นปี ค.ศ. 2017 โดยลงเป็นตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาแทนอเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน ในนาทีที่ 83 ในเอฟเอคัพรอบ 3 ในนัดที่พบกับเพรสตันนอร์ทเอนด์ และลงเป็นตัวจริงในรอบ 4 ที่พบกับเซาแทมป์ตัน ที่สนามเซนต์แมรีส์ ซึ่งเวลเบกสามารถยิงได้ถึง 2 ประตู ในนาทีที่ 15 และ 22 และยังเป็นผู้ที่ส่งลูกให้ทีโอ วอลคอตต์ ทำประตูที่ 3 ในนาทีที่ 35 อีกด้วย ซึ่งอาร์เซนอลชนะไปอย่างท่วมท้นถึง 0–5[13]

วอตฟอร์ด

เวลเบกเซ็นสัญญากับวอตฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2019 โดยระยะของสัญญานั้นไม่เปิดเผย[14]

แหล่งที่มา

WikiPedia: แดนนี เวลเบก http://www.footballbkk.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B... http://www.manutd.com/en/News-And-Features/Footbal... http://www.rsssf.com/tablesf/fifa-wcc08-det.html http://www.smmsport.com/reader.php?news=178414 http://www.xn--c3cyf1bbo6cd5byjyb8e.com/forum/inde... http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsI...